💊อยู่อย่างเข้าใจโควิด-19💊
1.สวมใส่หน้ากากอนามัย
เดิมทีประชาชนคนไทยไม่นิยมสวมใส่หน้ากากอนามัยในชีวิตประจำวันกันสักเท่าไหร่ แม้กระทั่งในช่วงที่ป่วยเป็นโรคหวัดก็ตาม อาจเป็นที่นิยมขึ้นมาหน่อยในช่วงที่มีการเฝ้าระวังฝุ่น PM 2.5 แต่ไม่นานกระแสดังกล่าวก็ซาลงไป คงเพราะเมืองไทยมีสภาพอากาศร้อนอบอ้าว การสวมใส่หน้ากากอนามัยจึงเป็นตัวการทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจนั่นเอง สำหรับบางคนการสวมใส่หน้ากากอนามัยกลับทำให้โดนล้อเลียนว่าเป็นตัวเชื้อโรคหรือเป็นคนเว่อร์ด้วย เมื่อมีโควิด-19 เข้ามา หลายๆ คนจึงตระหนักถึงความจำเป็นของการสวมใส่หน้ากากอนามัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นพฤติกรรม New Normal ที่ดีต่อใจมากๆ และควรยึดถือปฏิบัติต่อไป จากนี้ไปไม่ว่าจะเดินทางใกล้หรือไกลบ้าน ก็ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านเสมอ ป้องกันได้ทั้งเชื้อโรคและมลภาวะต่างๆ ที่สำคัญ ชาวออฟฟิศหลายๆ คนต้องปรับ Mindset ตนเองใหม่ พอรู้สึกว่าจะเป็นหวัดมีไข้ปุ๊บ ควรสวมหน้ากากอนามัยทันที เซฟทั้งตนเองและเพื่อนร่วมงาน
2.หมั่นล้างมือและทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ หรือเจล
แอลกอฮอล์เจลเคยเป็นหนึ่งในไอเท็มที่แสนไกลตัวของใครหลายๆ คนยิ่งนัก น้อยคนนักล่ะที่จะพกแอลกอฮอล์เจลติดกระเป๋า แต่เมื่อมีเรื่องโควิด-19 เข้ามา หลายๆ คนก็ได้รู้จักสรรพคุณในการฆ่าเชื้อโรคของแอลกอฮอล์เจลมากยิ่งขึ้น จนแอลกอฮอล์เจลเข้ามามีบทบาทในการดูแลสุขภาพในชีวิตประจำวันของหลายๆ คนกว่าแต่ก่อน พฤติกรรม New Normal ที่ควรทำต่อไปก็คือ พกแอลกอฮอล์เจลติดตัวเสมอ หากไม่สะดวกล้างมือบ่อยๆ อย่างน้อยๆ ก็ควรใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการสัมผัสสิ่งของที่ต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น เช่น เงิน ราวจับรถเมล์ ราวจับรถไฟฟ้า เป็นต้น นอกเหนือไปจากนี้ ภายในออฟฟิศก็ควรใช้แอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดบริเวณที่ต้องสัมผัสร่วมกับผู้อื่นเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น ลูกบิดประตู สวิตช์ไฟในออฟฟิศ คอมพิวเตอร์ เมาส์ ปริ้นเตอร์ เครื่องสแกนลายนิ้วมือ เป็นต้น
3.เว้นระยะห่างจากผู้คน 1-2 เมตร
คนส่วนใหญ่มักใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ไปกับการพักผ่อนหย่อนใจตามสถานที่ต่างๆ เป็นเหตุให้หลายๆ พื้นที่เกิดความแออัด อาจเสี่ยงต่อการเกิดเหตุไม่คาดคิดตามมา พฤติกรรม New Normal ที่สำคัญอีกประการที่ควรทำต่อไปก็คือ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด หากเลี่ยงไม่ได้ ใช้วิธีเว้นระยะห่างระหว่างผู้คนใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นการยืน นั่ง ต่อคิว หรือขึ้นลงบันไดเลื่อน ควรอยู่ให้ห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร นอกจากจะช่วยลดเสี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้แล้ว ยังช่วยลดเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้อีกทาง
4.รับประทานอาหารสดใหม่
สังเกตได้ว่าสโลแกน “กินร้อนช้อนกลาง” นั้น แทบจะอยู่มาทุกยุคทุกสมัย มีการรณรงค์ให้รับประทานอาหารปรุงสุกสดใหม่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่บ้านเมืองอยู่ในสภาวะปกติ ช่วงที่บ้านเมืองประสบปัญหาน้ำท่วม หรือกระทั่งในสถานการณ์ปัจจุบันก็ตาม นั่นเพราะอาหารเป็นสิ่งที่เสียได้ไว แบคทีเรียสามารถเติบโตได้ง่าย การรับประทานอาหารปรุงสุก สะอาด สดใหม่ย่อมช่วยสร้างความปลอดภัยและส่งผลดีต่อสุขภาพ อีกพฤติกรรม New Normal ที่ควรสานต่อไปก็หนีไม่พ้นวิถีกินร้อนช้อนกลางนี่แหละ
5.ทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่บ้านให้มากขึ้น
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มักอาศัยรวมกัน มีการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นตลอดเวลา คนส่วนใหญ่จึงชอบใช้เวลาไปกับการสังสรรค์ ท่องเที่ยวเดินทางเป็นหมู่คณะ หากมีใครสักคนปฏิเสธการรวมกลุ่ม มักถูกมองว่าเป็นพวกแปลกแยก ไม่มีคนคบ ทั้งๆ ที่ความจริงอีกฝ่ายอาจแค่ไม่สะดวกเรื่องค่าใช้จ่ายก็ได้ พฤติกรรม New Normal ที่ควรทำต่อไปก็คือ สังสรรค์เท่าที่จำเป็น ระมัดระวังตัวมากขึ้น หาความสุขที่บ้านให้มากกว่าเดิม เลือกเดินทางเฉพาะสถานที่ที่มั่นใจว่าปลอดภัยจากเชื้อโรค เลือกพาหนะในการเดินทางที่สะอาดปลอดภัย ไม่ถึงขั้นว่าต้องอยู่บ้านตลอด 365 วัน แค่เลือกไปในวาระสำคัญๆ เซฟร่างกายได้ ประหยัดเงินไปในตัวด้วย
6.เปลี่ยนวิธีการจับจ่ายใช้สอยเงิน สิ่งของ
ช่วง ‘อยู่บ้าน หยุดเชื่อ เพื่อชาติ’ เป็นช่วงที่บริษัท ห้างร้าน และกิจการต่างๆ จำเป็นต้องหยุดให้บริการชั่วคราว เป็นเหตุให้หลายๆ คนว่างงานกะทันหัน ขาดรายได้แบบปุบปับ เป็นเหตุให้หลายๆ คนมีโอกาสได้คิดทบทวนถึงพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยในอดีตของตนมากขึ้น แต่อดีตก็คืออดีต มัวคิดมองย้อนกลับไปก็เท่านั้น สู้เอาเวลาไปโฟกัสกับการทำปัจจุบันให้ดีขึ้นจะเข้าทีกว่า พฤติกรรม New Normal ที่ควรค่าแก่การทำต่อไปก็คือ เปลี่ยนมาตรฐานการจับจ่ายใช้สอยใหม่ เน้นเลือกของที่มีประโยชน์ ราคาเป็นมิตร สามารถใช้ได้หลายครั้ง แทนการซื้อของตามอำเภอใจ สิ่งใดสามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ ก็ควรซื้อออนไลน์ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ลดความเสี่ยงต่อการเดินทางไปยังสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่านไปในตัว
7.หาช่องทางการเก็บเงินเพื่อใช้จ่ายในอนาคต
จากเดิมทีที่หลายๆ คนใช้เงินแบบไม่คิดหน้าคิดหลังมาก่อน นับแต่นี้ไป ควรเก็บเงินเผื่อกรณีฉุกเฉินให้มากขึ้น จะเห็นได้ว่าช่วงที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป็นปุถุชนคนธรรมดาหรือนักธุรกิจมือฉมังก็ล้วนได้รับอิทธิพลจากโควิด-19 ด้วยกันทั้งนั้น พฤติกรรม New Normal ที่ไม่ควรเพิกเฉยก็คือ หาวิธีเพิ่มช่องทางเซฟเงินเพื่ออนาคตให้มากยิ่งขึ้น อาจพิจารณาช่องทางการลงทุนต่างๆ เพิ่มเติม หรือหาวิธีตัดรายจ่ายไม่จำเป็นทิ้งไป
8.รักษาสุขภาพทั้งกายใจให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย
ก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 เชื่อว่าหลายๆ คนเคยทำงานด้วยการตั้ง ‘เงิน’ ไว้เป็นเป้าหมายอันดับหนึ่ง จริงอยู่ว่าถ้ามีเงินก็สามารถซื้อปัจจัยสี่ที่จำเป็นได้โดยสะดวก หากมีเงินมากแต่สุขภาพสุดโทรมแล้วไซร้ ก็ไม่แน่ใจว่าการโหมทำงานหนักเพื่อเอาเงินมารักษาสุขภาพตัวเองภายหลัง จะเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การลงทุนหรือเปล่า พฤติกรรม New Normal ที่ควรปรับใช้ในชีวิตประจำวันต่อไป คือการหยิบยกให้เรื่องสุขภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงเป็นตัวแปรสำคัญในการต่อสู้กับโรคร้าย หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ปฏิบัติตามสุขบัญญัติการดูแลสุขภาพเสมอ อย่าลืมตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีด้วย
😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀😀
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น