วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

🚕TOYOTA COROLLA CROSS GR SPORT

 

ปัจจุบันรถยนต์ประเภท B-SUV มีการแข่งขันค่อนข้างมากเลยทีเดียว เราจะมาดูรายละเอียดและการเปลี่ยนแปลงของรถยนต์รุ่นหนึ่งกัน นั่นก็คือ TOYOTA COROLLA CROSS GR SPORT  ครับและรายละเอียดของการทดสอบรวมถึงตัวรถนั้นจะเป็นอย่างไร สมรรถนะการขับขี่บอกเลยว่าดีกว่าเดิมค่อนข้างชัดเจน ทั้งเรื่องความนิ่ง ความหนึบ แล้วก็การทรงตัวที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุผลก็คือการปรับช่วงล่างใหม่มีความแตกต่างจากรุ่นมาตรฐานชัดเจน ช่วงล่างมีการโคลงน้อยมาก แต่ว่าไม่ได้นิ่มนวลเท่ากับรุ่นมาตรฐานพวงมาลัยก็เช่นกัน มีความคมแล้วก็นิ่งมากยิ่งขึ้น ถือว่าเซ็ตค่าพวงมาลัยใหม่ในการขับขี่ในความเร็วนได้ดีทำให้อย่างมั่นใจในการเข้าโค้ง ส่วนการใช้ความเร็วต่ำ  พวงมาลัยก็ไม่หนักมาก ก็ยังควบคุมรถได้ง่ายภาพรวมกับการเปลี่ยนใหม่ในเวอร์ชัน GR Sport ในส่วนของช่วงล่าง ทำได้ดีมาก ๆ 

ส่วนของเครื่องยนต์สำหรับ Toyota Corolla Cross GR Sport การปรับละเอียดด้านนอกนะครับแต่ว่าเครื่องยนต์ก็ยังเป็นบล็อกเดิมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส 2ZR-FXE Atkinson cycle ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. VVT-i ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah  พละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์ และ มอเตอร์ไฟฟ้าให้ กำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 36 ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20



อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงก็ถือว่าเขาทำออกมาแล้วก็ดีนะครับเพราะเดินทางทั้งช่วงรถติดมากและในช่วงที่รถวิ่งได้ความเร็วปกติ ระยะทางมากกว่า 350 กิโลเมตร มีการใช้ความเร็วสูงในบางช่วง อัตราเฉลี่ยที่โชว์อยู่บนหน้าปัดอยู่ที่ 18 กิโลเมตรต่อลิตร  

มาดูรอบ ๆ คันกันครับกับ TOYOTA COROLLA CROSS GR SPORT ีมิติตัวรถขนาด ยาว x 4,460 มิลลิเมตร กว้าง x 1,825 มิลลิเมตร สูง x 1,620 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,640 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุดถึงพื้น ground clearance : 161 มิลลิเมตร 

    ความโดดเด่นที่ด้านหน้าต้องบอกว่าเป็นความเปลี่ยนแปลง ไปมากดูสวยขึ้น หน้าไม่บึ้งแล้ว เขาปรับแต่งหน้าใหม่เป็นสไตล์ Sport กันชนหน้า GR Sport กระจังหน้า เฉพาะรุ่น GR Sport แถบตกแต่งชายล่าง กันชนหน้า ด้านข้างและหลัง ไฟท้ายรมดำ Smoke Chrome ล้ออัลลอยลาย GR Sport ขนาด 18 นิ้ว  สัญลักษณ์ GR Sport ที่ฝาท้าย หลังคาสีดำ Black Roof เฉพาะรุ่นเท่านั้นนะครับแล้วก็ตัวกระจังหน้าจะมีขนาดเล็กกว่ารุ่นมาตรฐาน สังเกตว่าจะมีไซส์ให้มันมีรอยหยักบอกเลยว่าสวยมากเลย มีโลโก้ Toyota อีกหนึ่งจุดที่เปลี่ยนด้วยเช่นกันนะคือกันชนด้านล่างก็ปรับให้สอดรับกับกระจังหน้าด้านบน เป็นไปในรูปแบบของรถยนต์ Sport ได้อย่างลงตัว มีไฟหน้า ไฟตัดหมอกก็เป็น LED 

ด้านหลังก็เป็นการปรับกันชนหลังเป็นชุดแต่ง Sport เข้ากันเข้ากันกับชุดแต่งด้านหน้า ใต้โลโก้ Cross มีกล้องมองหลัง ด้านบนมีสปอยเลอร์ ไม่ใหญ่มากนะตัวหนา ๆ หน่อย ผาท้ายหรือประดูด้านหลังปเปิดด้วยไฟฟ้า มี Kick Senser ไฟท้ายก็เป็นแบบ  LED แต่ยังไม่เต็มระบบ ไฟเลี้ยวยังไม่เป็น LED 

 ช่องเก็บสัมภาระด้านหลังกว้างเลยทีเดียว ชุดยางอะไหล่ไม่มี แต่เป็นชุดซ่อมยางแทน Toyota Corolla Cross ส่วนภายใน  เน้นเป็น สีดำเงา Piano Black / สีเงิน Silver  เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ ตกแต่งด้วยแถบสีเทา พร้อมสัญลักษณ์ GR Sport  หัวเกียร์ พร้อมสัญลักษณ์ GR Sport ปุ่มสตาร์ท พร้อมสัญลักษณ์ GR Sport  พรมพื้นห้องโดยสาร พร้อมสัญลักษณ์ GR Sport  Toyota Corolla Cross GR Sport  แผงคอนโซลหน้าจะเป็นสีดำ Piano Black เบาะนั่งตกแต่งพนักพิงศีรษะด้วยสัญลักษณ์ GR พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้าน หุ้มหนังเดินตะเข็บสีเงิน จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว หน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว มาพร้อมรูปกราฟิกแอนิเมชั่น ปุ่ม Push Start พร้อมติดโลโก้ GR ตามส่วนต่าง ๆ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40 มาพร้อมพนักวางแขนที่เบาะด้านหลัง 


    ระบบความปลอดภัยของ Toyota Corolla Cross GR Sport 2022 จะได้มากับระบบ Toyota Safety Sense 2.0 อาทิ ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน, ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ, ระบบความปลอดภัยก่อนการชน และระบบไฟสูงอัตโนมัติ


หลังคาเปิด-ปิดได้ เป็น Sun Roof ที่เ็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ อยู่ด้านบนหลังคาตรงคนขับ และคนนั่งข้าง มีขนาดไม่ใหญ่มาก ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน บางรุ่นเป็นหลังคากระจกทั้งบานก็มี แล้วแต่ความชอบแล้วกันครับ



วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

🚕MG HS และ New MG HS PHEV


รถยนต์ที่มีบทบาทใหม่ในตลาดรถยนต์

บริษัท MG ประเทศไทยผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ MG ในประเทศไทยเปิดตัว New mg zs EV MG ZS EV โฉมใหม่อย่างเป็นทางการภายใต้แนวคิด Finest โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยพร้อมรูปโฉมใหม่ ที่ผสานความหรูหรา ทันสมัยและความสปอร์ตอย่างลงตัว เปิดให้บริการแล้วทุกโชว์รูม  50 แห่ง ทั่วประเทศ 

MG เป็นผู้นำในการติดตั้งเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระหว่างคนกับรถในตลาดรถยนต์เมืองไทยและเป็นรายแรกที่ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสั่งการฟังก์ชันในรถยนต์ได้ด้วยเสียงภาษาไทยภายใต้ชื่อ ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ I-Smart ซึ่งปัจจุบันระบบนี้สามารถอัพเดทฟังก์ชันการทำงานใหม่ๆผ่านทางออนไลน์หรือโควต้าสร้างความสะดวกสบายในการจนได้มากยิ่งขึ้นสำหรับ New MG HS นอกจากจะมาพร้อมรูปลักษณ์ใหม่แล้วจะมีการติดตั้งเทคโนโลยีระบบ AR Navigation ระบบนำทางเสมือนจริงเป็นครั้งแรกในกลุ่มรถ C SUV พร้อมการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆมากมายซึ่งจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่เป็นอย่างดี  แนะนำ MG HS แรกสู่ตลาดเมืองไทยในปี 2019 และสามารถสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ mg ในฐานะหนึ่งในผู้เล่นหลักในกลุ่ม C SUV ในประเทศไทย

สำหรับ New MG HS และ New MG HS PHEV โฉมใหม่มาพร้อมกับนิยาม requirement สะท้อนความเป็นรถยนต์สปอร์ตพรีเมียมเอสยูวีที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวผสมผสานระหว่างความหรูหราและความสปอร์ตอย่างลงตัวทั้งในด้านการออกแบบภายนอกและภายในที่ทันสมัยใส่ใจในทุกรายละเอียด ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้นโดดเด่นด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย  ด้วยการติดตั้งระบบนำทางเสมือนจริง AR Navigation ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกล้องหน้าที่ถ่ายทอดภาวะแวดล้อมจริงในขณะเดินทางร่วมกับระบบนำทาง Navigation แบบเรียลไทม์  ช่วยการใช้งานระบบนำทางแม่นยำมากยิ่งขึ้นรวมไปถึงการพัฒนาระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-smart เพื่อใช้งานได้สบายมากกว่าเดิม และระบบกุญแจดิจิตอลอีกทั้งยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานสากลสูงสุดถึง 16 ระบบและระบบช่วยผู้ขับขี่หรือระบบ ADAS (Advanced driver assistance systems) ที่เทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 2 พัฒนาการขับขี่ที่ทรงพลังจากระบบขับเคลื่อนทั้งแบบเครื่องเบนซินเทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร และเทคโนโลยีปลั๊กอินไฮบริดที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพให้พละกำลังสูงสุด 284 HP มาพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แบบโมเดิร์นขนาดใหญ่ 16.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % ได้ถึง 67 กิโลเมตร  

New MG HS และ New MG HS PHEV ยกระดับด้านการออกแบบให้มีความโดดเด่นและทันสมัย ผสานทั้งความหรูหรา และควาสปอร์ต ได้อย่างลงตัว ด้วยเส้นสายของตัวถังที่เน้นควาโค้งมนของตัวรถ และกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ คงเอกลักษณ์ความเป็นส่วนตัวของ MG มิติตัวถังของรถทั้งสองรุ่น ยาว 4,574 มิลลิเมตร กว้าง 1,876 มิลลิเมตร สูง 1,664 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,727 มิลลิเมตร กระจังหน้าใหม่ สี Two Tone ภายในตกแต่งที่สีทูโทนชมพูไทวัสดุหมูนุ่มแบบ  Soft Touch ให้ความรู้สึกหรูหราและ Premium ในทุกรายละเอียดพร้อมฟังก์ชั่นที่ทั้งความสะดวกสบาย และคุณค่าระหว่างการขับขี่ที่ครบครัน ภายในมีทั้งสีดำและสีทูโทนขาวน้ำเงิน เบาะนั่งคู่หน้า Sport budget Seed เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พวงมาลัย Multi Function พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย หลังคาพารานอมิคซันรูฟขนาดใหญ่ ไฟห้องโดยสารปรับได้ 64 เฉดสี   หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Visual Dashboard ขนาด 12 นิ้วหน้าจอกลางแบบมัลติฟังชั่น Touch Screen ขนาด 10 นิ้วระบบเสียงเซอร์ราวด์เหนือระดับกับ Boss  8.1 Sound System ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง  ระบบกรองอากาศ PM 2.5 กระจกมองหลังตัดแสงแบบอัตโนมัติ ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะพร้อมปุ่ม Push start และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสารระบบเชื่อมต่อ Multi Media แอปเปิ้ลคาร์เพลย์สมาร์ทโฟน ระบบ android 

 New MG HS PHEV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ขับขี่อย่างต่อเนื่องด้วยระบบเกียร์แบบ EDU2  10 Speed ทำอัตราเร่ง 0-100 ภายในเวลา 7.5 วินาที และสามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้า 100% ได้ถึง 6 7 กิโลเมตร

เครื่องยนต์เบนซิน Turbo 1.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตรมอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงแบบ pair pin winding technology ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้าแรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบ 6 module ขนาด 6.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัยและบริการ ul 2580 และมาตรฐาน ip67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น

รูปแบบการขับขี่ 5 รูปแบบโหมด EV Mode Eco Mode, Normal Mode, Sport, Supersport ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System ) 3 ระดับ ระบบการบริหารพลังงานไฟฟ้า และสร้างกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์กลับสู่แบตเตอรี่ 

ระบบช่วงล่างด้านหน้าแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลงและระบบช่วงล่างหลังแบบมัลติลิงค์พร้อมเหล็กกันโคลง ทั้งหน้าและหลังดิสก์เบรกหน้า พร้อมช่องระบายความร้อนและพิเศษหลังนี้ขณะที่ New GG ZS มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน Turbo 1.5 ลิตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ TST Twin คลัช fortis แบบ 7สปีดให้พละกำลังสูงสุด 163 แรงม้าแรงบิดสูงสุดที่ 250 นิวตันเมตรและรอบที่ต่ำเพียง 1700 rpm มีระบบการขับขี่ 4 รูปแบบได้แก่ Eco Mode Sport Supersport เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยรอบคัน New MG HS และ New MG HS PHEV มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครบครัน ทั้งระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย Full Space Flame ระบบช่วงล่างแบบ euro tuning suspension และมีระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปมากถึง 26 ระบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยเรื่องระบบเบรกและช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่จำนวน 14 ระบบและระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS คือระบบช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุทางด้านหน้า และด้านท้ายรถซึ่งเทียบเท่ากับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ 2 โปรแกรมกว่า 12 ระบบ ได้แก่ 

  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา 

  • ระบบชุดอื่นขณะถอยหลัง 

  • ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู 

  • ระบบเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน 

  • ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน

  • ระบบควบคุมรถออกนอกเลน

  • ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน

  • ระบบควบคุมความเร็วรถแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control)

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ

  • ระบบช่วยเตื่อนเมื่อเสี่ยงกับการชนรถคันหน้าในขณะขับขี่

  • ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ

  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ พร้อมสัญญาณเตือนถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ immobilizer ระบบตรวจจับความผิดปกติของลมยาง และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ 


ระบบปฏิบัติการอัจฉะริยะ I-Smart  ที่ช่วยยกระดับคุณค่า และประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ mg รวมถึงการเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ให้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยี Digital Key และล่าสุดกับ AR Navigation ระบบนำทางเสมือนจริง ที่จะทำให้ทุกการเดินทางแม่นยำมากยิ่งขึ้น

Smart Check หรือระบบตรวจเช็คอัตโนมัติ ประกอบไปด้วย ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จ รวมถึงการค้นหาสถานีชาร์จ ตรวจสอบสถานะของประตูรถ ตรวจสอบตำแหน่งของรถเขาบอกเส้นทางไปยังรถยนต์ผ่าน function Find My Car ตรวจสอบความผิดปกติ และแจ้งสถานะการทำงานของของรถ เช่น เครื่องยนต์ลมยาง และถุงลมนิรภัย ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ ระบบขอบเขตเล็กทรอนิกส์ ช่วยค้นหาศูนย์บริการนัดหมายแล้วบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ 

Smart Command ระบบสั่งการอัจฉริยะประกอบไปด้วย กุญแจดิจิตอล ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย ควบคุมการสั่งงานเครื่องปรับอากาศผ่านทาง Smart Phone โทรออก รับสายผ่าน Touch Screen ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน ระบบ I Call ที่สามารถติดต่อ MG Call Center เพื่อสอบถามข้อมูล หรือขอรับจุดน่าสนใจด้วยปุ่มลัดที่พวงมาลัย ค้นหาข้อมูลและแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจจาก Smart Phone ส่งเข้าจอทัชสกรีนของรถได้ 

Smart Connect หรือระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ประกอบด้วย ระบบนำทางอัจฉริยะ แสดงเส้นทางพร้อมภาพเสมือนจริงจากกล้องหน้ารถ (AR Navigation) พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time ระบบช่วยค้นหาร้านอาหารและที่พักบนแผนที่นำทาง ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสลิมมิ่งระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบันและ Update ข้อมูลพยากรณ์อากาศ ระบบต่างๆผ่านออนไลน์ 

New MG HS และ New MG HS PHEV ให้เลือกทั้งหมด 5 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็นรุ่นที่เป็นเครื่องยนต์สันดาป จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น C รุ่น D และรุ่น X และรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริด จำนวน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น PHEV D และ รุ่น PHEV X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเทา (Metal Ash Grey) และสีแดง (Scarlet Red)

 NEW MG HS รุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร

- NEW MG HS รุ่น C 939,000.-

- NEW MG HS รุ่น D 1,089,000.-

- NEW MG HS รุ่น X 1,159,000.-

NEW MG HS PHEV รุ่นเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริด

- NEW MG HS PHEV รุ่น D 1,299,000.-

- NEW MG HS PHEV รุ่น X 1,379,000.-





                 BYD Atto 3   เป็นรถ B-SUV/Crossover แบบไฟฟ้าล้วน100%               มิติตัวถัง        ·          ยาว   4,455 มิลลิเมตร ·  ...